สำหรับนักพนันมือใหม่ที่ต้องการแทงบอล การเดิมพันแบบแฮนดิแคป (HDP) คงอยากทราบว่า แฮนดิแคป คืออะไร? เป็นหนึ่งในรูปแบบการแทงบอลที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลกด้วย สำหรับ แฮนดิแคป คือการเดิมพันเกมการแข่งขันฟุตบอลออนไลน์ แบบที่มีแต้มต่อรองนั่นเอง โดยนักเดิมพันจะต้องเสี่ยงทางว่า ทีมใดจะเป็นทีมที่ได้รับชัยชนะ ในการแข่งขันของวันนั้น ซึ่งจะมีราคาหรือเรทราคาต่อรองมาเป็นตัวกำหนด ซึ่งมีความแตกต่างจากการแทงบอลประเภท สูง-ต่ำ การทายสกอร์ และการเดิมพันในรูปแบบอื่น KUBET
อธิบายง่ายๆ ได้ว่าเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่าง 2 ทีม จากการวิเคราะห์เทียบ 11 ตัวจริงที่จะทำการลงสนาม วัดกันแบบตัวต่อตัว และอิงจากสถิติการพบกันหรือเกมการแข่งขัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ก่อนที่จะเดินทางมาพบกัน ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นคะแนนที่นำมาคิดคำนวณจนกลายมาเป็นแต้มต่อรองในเกมนั้นๆ หากทีมที่ดูแล้วมีภาษีเหนือกว่าอีกฝั่ง ทีมที่เก่งกว่าก็จะเป็นฝ่ายต่อ แล้วแต่ราคาที่เว็บพนันจะวิเคราะห์ออกมา ส่วนทีมที่อ่อนกว่า ก็จะกลายเป็นทีมรอง การคิดราคาแฮนดิแคปออกมา จะเป็นการคิดที่ใกล้เคียงและมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการแข่งขันเฉพาะแมทช์นั้น
การดูราคาต่อรอง การเดิมพันแบบแฮนดิแคป
ในกรณีที่แฮนดิแคปหรือราคาในการต่อรองเป็น 0
ถ้าช่อง การเดิมพันแบบแฮนดิแคป แสดงแต้มการต่อเป็น 0 แสดงว่าคู่นั้นไม่มีการต่อรองกันเกิดขึ้น ทั้งสองทีมสูสี เป็นราคาเลือก เหมือนให้เราวัดใจไปเลยว่าจะเลือกซ้ายหรือขวา ถ้าเราแทงฝั่งที่เราเลือกแล้วเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าแพ้ก็จะเสียเงิน ส่วนถ้าเสมอ จะได้เงินคืน
แต้มต่อมีราคาเป็น 0-0.5 (0.25), 1-1.5 (1.25), 2-2.5 (2.25),3-3.5 (3.25) …
ถ้าแสดงราคาในช่องแฮนดิแคปมาเหมือนกับข้อที่ 2 แสดงว่าคู่นั้นมีการต่อรองเกิดขึ้น ยกตัวอย่างในราคา 1-1.5 หรือ 1.25 สองตัวนี้คือมีความหมายเดียวกัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี
ถ้าหากเดิมพันทีมต่อ ในราคา 1.25 จะต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปเช่น 2-0 , 3-1 , 4-2 เป็นต้น ถ้าชนะแต่ยิงไม่ถึง 2 ลูก ก็จะเสียเงินครึ่งหนึ่งจากการเดิมพัน แต่ถ้าหากแพ้หรือเสมอ ก็จะเสียเงินแบบเต็ม เพราะยิงไม่ถึงแต้มต่อรอง
กรณีที่แทงทีมรองในราคา 1.25 ถ้าหากเสมอ หรือชนะ จะได้เงินในราคาเต็ม แต่ถ้าหากแพ้ 1-0 จะได้เงินเพียงครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าหากแพ้ 2 ลูกขึ้นไปก็จะเสียเงินแบบเต็มทันที เพราะถูกยิงเกินราคาที่กำหนดเอาไว้
อัตราต่อรองเป็น 0.5, 1.5, 2.5, …
ในกรณีที่มีราคาแฮนดิแคปแสดงแต้มต่อเป็นเหมือนข้อที่ 3 ทีมต่อจะต้องเป็นฝ่ายที่ชนะตามแต้มต่อเท่านั้น ถ้าหากยิงไม่ถึงก็จะเสียเต็มทันที ยกตัวอย่างเช่น แทงทีมต่อในราคา 1.5 แต่ผลการแข่งขันออกมาจบที่ 0-0 จะเสียเต็มทันที ส่วนในกรณีที่ทีมต่อชนะ 1-0 ก็จะเสียเต็มเช่นเดียวกันและไม่มีการหารใดๆ ทั้งสิ้น เพราะยังยิงไม่ถึงแต้มต่อ
ส่วนในกรณีที่แทงทีมรอง ถ้าแทงทีมรองในราคา 1.5 ถ้าหากทีมที่เดิมพันไป แพ้ 1-0 เสมอ 0-0 หรือ ผลการแข่งขันออกมาเป็นฝ่ายชนะจะได้รับเงินรางวัลเต็มราคาทันที แต่ถ้าหากแพ้ 2 ลูกขึ้นไป ก็จะเสียเต็ม
แฮนดิแคปหรือราคาต่อรองเป็น 0.5-1 (0.75), 2.5-3 (2.75), 3.5-4 (3.75)
ในกรณีที่อัตราต่อรองแฮนดิแคปเป็นเหมือนข้อที่ 4 ทีมที่ต่อจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ราคาแฮนดิแคป 0.5-1 หรือ 0.75 ถ้าเดิมพันทีมต่อแล้วชนะ 1-0 จะได้เงินรางวัลครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าหากชนะ 2 ลูกขึ้นไป จะได้รับเงินรางวัลเต็ม ส่วนถ้าหากแพ้หรือเสมอ จะเสียเต็มทันที
หากแทงทีมรองที่ราคา 0.5-1 หรือ 0.75 แล้วทีมที่เดิมพันเป็นฝ่ายแพ้ 1-0 จะเสียเงินเดิมพันไปครึ่งนึง หรือ ทีมรองพ่ายแพ้ 2 ลูกขึ้นไป เสียเต็มทันที แต่ถ้าหาก ผลการแข่งขันจบออกมาที่ 0-0 หรือ ทีมที่รองเป็นฝ่ายชนะ ก็จะได้รับเงินรางวัลเต็มทันที
ราคาต่อรองเป็น 1, 2, 3, …
ถ้ามีแต้มต่อรองอยู่ที่ 1,2,3 ลูกขึ้นไป จะดูง่ายหน่อย เพราะมีเลขจำนวนเต็มอยู่แล้ว ถ้าหากเดิมพันอยู่ฝั่งทีมต่อ ถ้าชนะเกินราคาต่อรอง ก็จะกินเต็ม ส่วนถ้ายิงพอดีกับราคาต่อรองก็จะเสมอได้เงินคืน ส่วนถ้ายิงไม่ถึงแต้มต่อ ก็จะเสียเงินเต็มทันที
ในกรณีที่เลือกเดิมพันฝั่งทีมรอง ถ้าทีมรองเป็นฝ่ายชนะ หรือทีมรองเสมอ จะได้รับเงินเดิมพันแบบเต็ม แต่ถ้าหากทีมรองเป็นฝ่ายแพ้เท่าราคาที่ต่อรอง ก็จะถือว่าเป็นการเสมอ และถ้าหากทีมรองแพ้เกินแต้มที่ต่อก็จะเสียเต็มทันที
การเดิมพันแบบแฮนดิแคป ถือว่าเป็นการดูราคาที่ง่ายไม่ซับซ้อนสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกการเดิมพันต้องเกิดจากการคิด วิเคราะห์ และความมีสติ ก่อนที่จะเลือกลงเดิมพัน เพราะบางทีแล้ว ราคาแต้มต่อรองที่เราเห็นๆ กันอยู่ มันอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป บางทีอาจจะเป็นราคาที่เอามาหลอกให้เราตายใจก็เป็นไปได้ ต้องอาศัยประสบการณ์และสถิติควบคู่กันไปด้วยถึงจะมีโอกาสชนะเกมเดิมพันในแมทช์นั้นได้